ตอนที่ 3, 23 September 2009 - 07:03 PM
ช่วงหลังลุงมารพ. บ่อยขึ้นแต่ปิดข่าว ส่วนเมียแก มักจะไปใช้บริการที่ รพ.จุฬา มากกว่า จึงไม่ค่อยได้รู้รายละเอียด หลานสาวคนโตก็เคยท้องเสีย มานอนโรงพยาบาลแห่งนี้ ที่เราได้รู้ข่าววงในก็ ได้คุยกับคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ที่บ้านลุง และคนขับรถเชฟโรเลตของลุงที่ใช้เป็นรถขนอาวุธสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16 ที่ขับในแถวของลุง ที่เค้ากล้าเล่าก็คงเป็นเพราะเราเป็นคนบ้านเดียวกัน เห็นกันทุกครั้งที่ลุงมา รพ. คนใช้เม้าท์ว่าตอนนี้ ลูกชายติดลูกเมียใหม่เอามากๆ ไม่สนใจเมียหลวงเลย เห็นว่าตอนนี้เมียหลวงไปเป็นหัวหน้าฝ่ายทำอาหารที่ บริษัทสายการบิน เพราะเธอจบคหกรรม ได้เงินเดือน 800,000 บาท วันนี้เธอก็มา และพาพ่อ แม่เธอ และอีกคนไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่ สองวันนี้เราไม่เห็นเธอเอาลูกมาด้วยนะ
ได้ยินมาว่าลูกชายทะเลาะกับพ่อที่ไร ก็ปาของใส่พ่อ ตรงเข้ามาจะทำร้ายพ่อ จนคนรับใช้ต้องชักปืนออกมาขู่จึงยอมหยุด ลุงเครียดมาก ป่วยคราวนี้สงสัยเหตุหลักก็น่าจะเป็นลูกชาย เข้าเรื่องอาการป่วย เมื่อวานนี้ลุงไปทำ เพ็ด สแกน หมอสงสัยว่าลุงมีพฤติกรรมแปลก เช่นชอบพูดเรื่องเก่าๆ กินข้าวแล้วก็บอกยังไม่ได้กิน หมอสงสัยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง และได้เห็น นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา และ นพ. ธีระวัฒน์ กุลทนันท์ ที่ตอนนี้เป็นคณบดี และ นพ. อุดม คชินทร หมอโรคทางเดินอาหารตอนนี้ ลุงไม่ค่อยมีไข้ แต่เย็นมักเริ่มสบสน มีคนมาเล่าต่อว่า ลุงเพ้อถึงหมอทิด หรือหมอนิด อะไรนี่แหละฟังไม่ถนัด ตลอดเวลาลุงบอกว่า คราวนี้ หมอทิดต้องช่วยด้วยนะ (เราก็ไม่เข้าใจ เหมือนกันว่าลุงหมายถึงอะไร)
ที่ลุงไม่กินข้าว หมอสงสัยว่าเป็นอาการข้างเคียงจากยาทางสมองหรือเปล่าที่ทำให้ลุงไม่ยอมกินข้าว
ลุงเคยซี่โครงหัก เพราะลูกชายผลักพ่อล้ม เมื่อ 3 ปี ก่อน และมีกระดูกทับเส้น ลุงเคยบอกว่าขอพักตอนอายุ 60 ปี แต่เห็นสภาพลูกชาย แกก็เลยไม่ปล่อยวาง ที่แถลงการณ์จริงๆ หมอไม่ได้เขียน ฝ่ายลุงน่าจะเขียน ปิดข่าวบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ที่แจ้งก็ตรงกับอาการจริงๆ ราว 50 เปอร์เซ็นต์ น่าจะได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น